1.Google คือ
เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล | ||||||||
เว็บไซต์ Google แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้คือ | ||||||||
| ||||||||
วิธีการใช้งาน Google ค้นหาข้อมูลแบบติดจรวด | ||||||||
การค้นหาโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะใช้คำ Keyword เป็นเครื่องมือในการนำทางการค้นหาอย่างเดียว แต่ถ้าเรารู้จักใช้เครื่องหมายบางตัวร่วมด้วย ก็จะทำให้ขอบเขตการค้นหาของ Google แคบลง ทำให้เราได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น เครื่องหมายที่สามารถนำมาช่วยในการค้นหาได้ มีดังนี้ | ||||||||
การค้นหาด้วยเครื่องหมายบวก (+) เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นตัวเชื่อม เพราะโดยหลักการทำงานของ Google แล้ว Google จะไม่ค้นหาคำประเภทตัวเชื่อม เช่น at, with, on, what, when, where, how, the, to, of ถึงแม้ว่าเราจะมีการระบุเหล่านี้ลงใน Keyword ด้วยก็ตาม | ||||||||
ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ Google ทำการค้นหาคำเหล่านี้ด้วย เนื่องจากเป็นคำสำคัญของประโยคที่เราต้องการ สามารถใช้เครื่องหมาย + ช่วยได้ โดยมีเงื่อนไข ว่า ก่อนหน้าเครื่องหมาย + ต้องมีการเว้นวรรค 1 เคาะด้วย เช่น ถ้าต้องการค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเกมส์ที่มีชื่อว่า Age of Empire ถ้าเราพิมพ์ Keyword ...Age of Empire… Google จะทำการค้นหาแยกคำโดยไม่สนใจ of คืออาจจะค้นหา Age หรือ Empire แค่ตัวเดียว แต่ถ้าเราระบุว่า Age +of Empire Google จะทำการค้นหาทั้งคำว่า Age, of และ Empire เป็นต้น | ||||||||
ฺ
| ||||||||
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (+)
| ||||||||
การค้นหาด้วยเครื่องหมายลบ ( - ) จะช่วยให้เราสามารถตัดเรื่องที่เราไม่ต้องการ หรือไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่ต้องการ การล่องแก่งที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดตาก ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง -ตาก (เช่นเดียวกับเครื่องหมาย + ต้องเว้นวรรคก่อนหน้าเครื่องหมายด้วย) Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง แต่ไม่มีจังหวัดตากเข้ามาเกี่ยวข้อง | ||||||||
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (-)
| ||||||||
การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...") เหมาะสำหรับการค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็นประโยควลี ที่เราต้องการให้มันแสดงผลทุกคำในประโยค โดยไม่แยกคำ เช่น ถ้าเราต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า "If I Let You Go" Google จะทำการค้นหาประโยค "If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา | ||||||||
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข ("...")
| ||||||||
การค้นหาด้วยคำว่า OR เป็นการสั่งให้ Google ค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่ง ทั้งในจังหวัดตาก และปราจีนบุรี ให้เราพิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง ตาก OR ปราจีนบุรี Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่งทั้งในจังหวัดตาก และกาญจนบุรี | ||||||||
ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (OR)
| ||||||||
|
2.เกี่ยวกับ Google ทันใจ
เกี่ยวกับ Google ค้นหาทันใจ
Google ค้นหาทันใจเป็นฟังก์ชันซึ่งจะแสดงผลการค้นหาทันทีขณะที่คุณกำลังพิมพ์ เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานของเราให้กว้างไกลออกไปเพื่อให้คุณได้ผลการค้นหาที่ดีและรวดเร็วขึ้น ข้อมูลสำคัญด้านเทคนิคที่เราทราบมาคือ คนส่วนใหญ่จะพิมพ์ช้าแต่อ่านเร็ว โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 300 มิลลิวินาทีระหว่างการกดแป้นพิมพ์แต่ละครั้ง แต่ใช้เวลาเพียง 30 มิลลิวินาที (หนึ่งในสิบ!) ในการกวาดตาดูส่วนอื่นของหน้าเว็บ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสแกนดูหน้าผลลัพธ์ได้ในขณะที่พิมพ์
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดก็คือ คุณจะได้ข้อมูลที่ต้องการเร็วขึ้น โดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความค้นหาให้เสร็จ หรือแม้แต่กด “ค้นหา” ด้วยซ้ำ การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างก็คือ การเห็นผลลัพธ์ขณะที่พิมพ์จะช่วยให้คุณสร้างข้อความค้นหาที่ดีขึ้นโดยการให้ข้อเสนอแนะแบบทันใจ ขณะนี้คุณสามารถปรับข้อความค้นหาของคุณได้ระหว่างพิมพ์จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ตรงตามที่คุณต้องการจริงๆ อีกหน่อย เราอาจจะลืมการค้นหาแบบเดิมๆ ไปเลยก็ได้
ประโยชน์
การค้นหาที่เร็วขึ้น: การคาดเดาข้อความค้นหาของคุณและแสดงผลลัพธ์ก่อนที่คุณจะพิมพ์เสร็จทำให้ Google ค้นหาทันใจประหยัดเวลาได้ 2-5 วินาทีในการค้นหาแต่ละครั้ง
การคาดเดาที่ฉลาดขึ้น: แม้คุณจะยังไม่รู้ชัดว่ากำลังค้นหาอะไรอยู่ การคาดเดาของเราก็ช่วยแนะแนวทางในการค้นหาของคุณได้ การคาดเดาที่อยู่ลำดับบนสุดจะแสดงเป็นข้อความสีเทาในช่องค้นหาโดยตรง เพื่อให้คุณหยุดพิมพ์ได้ทันทีที่พบสิ่งที่ต้องการ
ผลลัพธ์ทันใจ: เริ่มพิมพ์แล้วผลลัพธ์จะปรากฏตรงหน้าคุณทันที ก่อนหน้านี้คุณต้องพิมพ์ข้อความค้นหาเต็มๆ กดส่ง และหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ผลลัพธ์จะปรากฏขึ้นทันทีที่คุณพิมพ์ ช่วยให้คุณเห็นว่ากำลังค้นหาไปในแนวไหนได้ในทุกก้าว
3.การตั้งค่าการค้นหา
การตั้งค่าการค้นหา
คุณสามารถควบคุมการตั้งค่าการค้นหาของคุณได้เสมอ ต่อไปนี้คือการทบทวนโดยสรุปของตัวเลือกที่คุณสามารถตั้งค่า (และเปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการ) ในหน้า การตั้งค่าการค้นหา คุณสามารถเข้าถึงหน้าดังกล่าวได้โดยคลิก
ไอคอนเฟืองที่มุมขวาบนของหน้าผลการค้นหา แล้วคลิก แล้วคลิก การตั้งค่าการค้นหา นอกจากนี้ ยังสามารถไปที่หน้าเว็บโดยตรงที่ google.com/preferences ตัวเลือกดังกล่าวแบ่งออกเป็นสามหมวดหมู่คือ ผลการค้นหา ภาษาและ ตำแหน่ง คลิกลิงก์ทั้งสามที่ด้านซ้ายบนของหน้าเว็บเพื่อเปลี่ยนหมวดหมู่

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น